การเลือก router wireless |
การเลือก router wireless
การเลือก router wireless คงจะเป็นคำถามของใครๆ หลายคนที่ต้องการมี wifi ใช้งานในบ้านหรือบริษัทแต่รู้คร่าวๆ ว่าต้องซื้ออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปล่อยสัญญาณเห็นแต่โฆษณาหรือคนอื่นเรียกกันว่า Rounter Wireless แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ก็อาจจะต้องมึนๆ งงๆ แล้วจะซื้ออย่างไรดี จะซื้อยี่ห้อไหนดี ทำไมมีหลายราคาให้เลือกมากมายเช่นนี้ วันนี้ทางเว็บบล็อกของเราจะมาแนะแนวหลัก การเลือก Router Wireless สำหรับนำไปใช้งานกัน ดังนี้
1) การเลือก Router wireless คลื่นความถี่ไหนดี ในปัจจุบันจะมีให้เลือกอุปกรณ์ที่สามารถส่งสัญญาด้วยคลื่นความถี่ 2.4GHz, 5GHz และ แบบ Dual Band ทั้งสองความถี่ โดยความถี่ 2.4GHz จะเป็นอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณคลื่นรุ่นเก่าและมีผู้ใช้งานดังนั้นจะมีสัญญาณรบกวนกันเป็นจำนวนมากกว่า 5GHz แต่หากซื้อ router wireless ที่เป็น 5GHz ก็จะไม่รองรับกับอุปกรณ์ที่ใช้งานเทคโนโลยีเก่า จึงเกิดเป็นอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณแบบ dual band ดังนั้นคำตอบจะออกมาชัดเช่นว่า คนนิยมส่วนใหญ่จะเลือกใช้งานอุปกรณ์ที่เป็น dual band
2) การเลือก Router wireless แบบ Indoor หรือ Outdoor ดี จะต้องคำนึงถึงโครงสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้าง ซึงโดยปกติแล้ว router wireless indoor นั้นจะมีขนาดของเสาส่งสัญญาณที่ 3 - 10 dbi และระยะการใช้งานไม่เกิน 100 เมตร สำหรับ router wireless outdoor จะมีขนาดเสาส่งสัญญาณตั้งแต่ 15 dbi ขึ้นไป ระยะในการส่งสัญญาณตั้งแต่ 500 เมตร จนไปถึง 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว และข้อดีคือ สามารถนำอุปกรณ์ต่อนอกอาคารได้ ทนความชื้นได้ดี แต่ราคาจะสูงกว่าแบบ indoor
3) การเลือก router wireless ต้องการคุณสมบัติอื่นๆ เช่น การจัดช่องสัญญาณ QoS, Firewall, ระบบ Filter กรองข้อมูลต่างๆ, ระบบ DNS เป็นต้น ก็จะทำให้มีรุ่นให้เลือกซื้อน้อยลงไปตามคุณสมบัติที่ต้องการและจะมีราคาที่สูงขึ้นด้วย
4) ความยากงานในการตั้งค่า config ซึ่ง router wireless ส่วนใหญ่จะให้มีการตั้งค่าผ่าน web application ซึ่งการออกแบบและคู่มือการใช้งานควรง่ายต่อผู้ใช้งานทั่วไป ตลอดจนการอัพเกรดระบบจัดการอุปกรณ์ หรือ firmware
5) การรับประกันอุปกรณ์ เนื่องจาก router ส่วนใหญ่จะมีการเปิดการใช้งานอยู่ตลอด ดังนั้นอุปกรณ์ย่อมมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน การรับประกันสินค้าควรเลือกดูรายละเอียดและระยะเวลาตามความเหมาะสมและงบประมาณของผู้ใช้
การเลือก router wireless หากผู้ใช้ต้องการคุณสมบัติมาก ก็จะยิ่งราคาสูงขึ้นไป แต่สำหรับองค์กรที่ต้องการความเสถียรของระบบเครือข่ายก็จะซื้ออุปกรณ์ในระดับ Enterprise และใช้ระบบ Network Performance Management program เข้ามาช่วยในการตรวจสอบเครือข่ายเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ Network ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น